การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องยนต์และไส้กรองน้ำมันเครื่องยนต์ หมายถึงการถ่ายน้ำมันเครื่องยนต์ของเก่าอออกและแทนที่ด้วยการเติมน้ำมันเครื่องยนต์ใหม่เข้าไป รวมถึงไส้กรองน้ำมันเครื่องยนต์ตัวใหม่ด้วย
ควรทำบริการนี้เมื่อได้รับการแนะนำใช่มั้ย ?โดยทั่วไปแล้วใช่ ซึ่งการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องยนต์ให้กับรถยนต์ของคุณเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่คุณสามารถทำได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าซ่อมเครื่องยนต์จำนวนมากให้กับช่างซ่อมของคุณในภายหลัง อย่างไรก็ตาม มีการถกเถียงกันในเรื่องความถี่ที่ควรจะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องยนต์ เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างในการทำงาน เช่น สภาพการขับขี่,สภาพของเครื่องยนต์และอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ สภาพแวดล้อมภายนอกในขณะขับขี่,การขับขี่ในสภาพที่หยุดและไปบนทางหลวง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลทางวิทยาศาตร์ที่ไม่มีความแน่นอนฮุนไดขอแนะนำให้คุณเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องยนต์ทุกๆ 10,000 กม. หรือ ทุกๆ 6 เดือน อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน ซี่งระยะเวลาดังกล่าว มันอาจจะเร็วเกินไปสำหรับลูกค้าหลายๆท่านและช้าไปสำหรับสำหรับลูกค้าบางท่าน แต่สำหรับส่วนใหญ่การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องยนต์ ทุกๆ 10,000 กม. หรือ ทุกๆ 6 เดือน อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน หรือ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องยนต์และไส้กรองให้เร็วขึ้น คือ ทุกๆ 5,000 กม. หรือ ทุกๆ 3 เดือน สำหรับรถยนต์ที่ใช้งานหนัก จะช่วยให้เครื่องยนต์ของคุณมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
ทำไมจึงต้องปฏิบัติตามคำแนะนำดังกล่าว?น้ำมันเครื่องยนต์จะเกิดการสลายตัวเนื่องจากการหล่อลื่นภายใต้สภาวะที่มีอุณหภูมิสูง เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ น้ำมันเครื่องยนต์จะมีประสิทธิภาพในการหล่อลื่นน้อยลงและเป็นผลให้ชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ที่มีการเคลื่อนที่มีการเสียดสีกัน จนการเกิดการสึกหรอในที่สุด น้ำมันเครื่องยนต์ยังมีสารเติมแต่งที่สามารถป้องกันการเกิดกรดในน้ำมันเครื่องยนต์ และเมื่อเวลาผ่านไป สารเติมแต่งเหล่านี้จะเสื่อมสภาพลงตามการใช้งานและไม่สามารถป้องกันการเกิดกรดในน้ำมันเครื่องได้
ท้ายที่สุด น้ำมันเครื่องยนต์สามารถดูดซับน้ำ,ฝุ่นและเขม่าจากการเผาไหม้ จนในที่สุดน้ำมันเครื่องยนต์เกิดการอิ่มตัวจากการดูดซับสิ่งเหล่านี้ และไม่สามารถดูดซับได้อีกต่อไป เป็นผลให้ ยังคงมีสิ่งปนเปื้อนหลงเหลืออยู่ในน้ำมันเครื่องที่ไม่สามารถดูดซับได้และยังทำให้เกิดการกัดกร่อนในระบบอีกด้วย
จะเกิดอะไรขึ้นหากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำดังกล่าว ?เครื่องยนต์ของคุณจะไม่สามารถทำงานได้นานเท่าที่ควร น้ำมันเครื่องยนต์ทำหน้าที่หลายอย่างและน้ำมันเครื่องยนต์ที่สะอาด จะทำหน้าที่ได้ดีกว่าน้ำมันเครื่องยนต์ที่สกปรก ราคาน้ำมันเครื่องค่อนข้างถูกและการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกๆ 10,000 กม. หรือ ทุกๆ 6 เดือน อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน หรือ ทุกๆ 5,000 กม. หรือ ทุกๆ 3 เดือน อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน สำหรับรถยนต์ที่ใช้งานหนัก ซึ่งเป็นการดำเนินการภายใต้เงื่อนไขการรับประกันที่ถูกมาก เมื่อเทียบกับการซ่อมแซมทั่วๆไป
มีการบำรุงรักษาที่จำเป็นที่อยู่ระหว่าง การตรวจเช็คสภาพตามระยะเวลาที่กำหนดหรือไม่ ?ใช่ คุณควรตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องทุกๆ 200 -300 กิโลเมตร เมื่อรถยนต์ของคุณจอดอยู่บนพื้นที่ราบ จากนั้นให้ดึงเหล็กวัดระดับน้ำมันเครื่องขึ้นมาและเช็ดด้วยผ้าสะอาดและใส่กลับเข้าไปใหม่ ให้ดึงเหล็กวัดระดับน้ำมันเครื่องขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องจะดีมากหากระดับน้ำมันเครื่องอยู่ใกล้กับ ต่ำแหน่งสูงสุด ( Max ) หากระดับน้ำมันเครื่องอยู่ที่ตำแหน่งต่ำสุด (Low) หรือ ต่ำกว่านั้น นั่นหมายความว่าระดับน้ำมันเครื่องที่อยู่ในอ่างน้ำมันเครื่องต่ำเกินไป ควรเติมน้ำมันเครื่องเพิ่มเข้าไปประมาณ1 ใน 4 ของความจุน้ำมันเครื่อง หากอยู่ระหว่างเครื่องหมายสองเครื่องหมายนี้ คุณสามารถเติมน้ำมันเครื่องเพิ่มเข้าไปให้อยู่ในตำแหน่งสูงสุดได้อย่างไรก็ตามโปรดทราบว่า น้ำมันเครื่องใหม่ที่เติมเข้าไปจะไหลได้ช้าเนื่องจากน้ำมันเครื่องมีอุณหภูมิต่ำ ซึ่งเหล็กวัดระดับน้ำมันเครื่องอาจไม่สามารถแสดงให้เห็นถึงระดับน้ำมันเครื่องที่คุณเพิ่งเติมเข้าไปได้อย่างเที่ยงตรงในทันที ดังนั้น คุณควรประเมิณระดับน้ำมันเครื่องจากเหล็กวัดระดับน้ำมันเครื่องในครั้งแรกและตรวจวัดระดับน้ำมันเครื่องอีกครั้งในภายหลัง หรือ ตรวจวัดอีกครั้งในวันถัดไป เพื่อให้แน่ใจว่า ระดับน้ำมันเครื่องอยู่ใกล้กับตำแหน่ง สูงสุด (Max) หากน้ำมันเครื่องอยู่ในระดับต่ำ เราขอแนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องตามเกรดที่ระบุไว้ในคู่มือการใช้รถของคุณ หากคุณต้องเติมน้ำมันเครื่อง อยู่บ่อยๆ อย่าลืมรายงานเกี่ยวกับปัญหานี้ให้ช่างที่ศูนย์บริการทราบ รถของคุณอาจมีน้ำมันเครื่องรั่วไหลออกสู่ภายนอก หรือ มีการรั่วไหลเกิดขึ้นจากภายในเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าอาจต้องเสียเงินไปกับค่าซ่อมเครื่องยนต์ที่แพงมาก
ในความเป็นจริง เครื่องยนต์ทุกตัวเริ่มต้นด้วยการเผาผลาญ ดังนั้นต้องหมั่นตรวจวัดระดับน้ำมันเครื่องเป็นครั้งคราว ซึ่งคุณอาจหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องยนต์ของคุณได้ในวันหนึ่ง